Story......... เมื่อราวพุทธศักราช 2453 ณ ริมฝั่งแม่น้ำน้อย ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง นาย ฉื่น กิ๊ด หยี่ ได้มาตั้งรกราก ริเริ่มร้านทองเล็ก ๆ ใต้ต้นมะขามใหญ่ สร้างงานฝีมือด้วย ทอง นาก เงิน ด้วยเครื่องมือน้อยชิ้นเรียบง่าย แต่รุ่มรวยด้วยพลังสร้างสรรค์ จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ในชื่อ ...ช่างทอง โคนมะขาม เวลาผ่านไป............ .........ต้นมะขามหยั่งรากลึกลงในผืนดินเดิม เมื่อ ยินดี ลูกสาวคนที่ หก ของนาย ฉื่น กิ๊ด หยี่ และนาง เป้า ปี๊ รับสืบทอดอาชีพช่างทองด้วยใจรัก มุ่งมั่น และแน่วแน่ ด้วยกำลังใจและพลังสร้างสรรค์ของคนคู่กายผู้มองการไกล ร้านต้นมะขามช่างทอง ของนางยินดี และนายใช้ จึงได้พิสูจน์คุณค่าดั้งเดิมให้เป็นที่ประจักษ์ รังสรรค์งานฝีมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รักษาคุณค่าความงามตามธรรมชาติของเนื้อทองแท้ ซื่อสัตย์ เที่ยงธรรมต่อลูกค้า กระทั้งราวปีพุทธศักราช 2500 ต้นมะขามยังคงแผ่รากหยั่งลึก ณ ริมฝั่งแม่น้ำน้อย ผลัดใบ แตกกิ่งมิได้หยุดยั้ง ในชื่อ ต้นมะขามช่างทอง ฟองจันทร์ หลานสาวคนโตของตายาย ลูกสาวคนแรกของพ่อแม่ ผู้ถือกำเนิดและเติบใหญ่ใต้ร่มมะขาม ท่ามกลางบรรยากาศการรังสรรค์งานศิลปะด้วยฝีมืออันมีเอกลักษณ์ ตั้งแต่การหลอม ตี ดึง ร้อย เชื่อมข้อ ออกแบบลาย สลัก ขัดเงา เธอได้เฝ้าสังเกต ซึมซับ ฝึกฝนการทำทองด้วยความมุ่งมั่น ดังนั้น เมื่อพ่อจากไปก่อนวัยอันควร ในปี พ.ศ. 2503 เธอจึงเข้ารับหน้าที่สืบทอดอาชีพช่างทองต่อจากพ่อได้อย่างสมบูรณ์ ขยายกิจการออกไปทั้งในถิ่นเดิมและจังหวัดอื่น ๆ เกือบ ๑๐๐ ปีผ่านไป เมล็ดจากมะขามต้นเดิม เดินทางมาหยั่งรากลงที่อยุธยา อดีตราชธานี และกรุงเทพมหานคร ภายใต้ร่มเงาของต้นมะขามต้นใหม่ ช่างทองรุ่นที่สี่ ได้สืบสานอัจฉริยภาพ และทุ่มเทความสามารถเพื่อจะถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งทองเนื้อแท้ที่ไม่สามารถหาใดเทียม อันจะติดตรึงใจลูกค้าสืบไป